ประเทศสหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกา (อังกฤษ: United States of
America) โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ (United States) หรือ
อเมริกา (America) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ
และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ โดย 48 รัฐและเขตปกครองกลางตั้งอยู่ ณ
ทวีปอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและเม็กซิโก
รัฐอะแลสกาอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ
มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศตะวันออกและข้ามช่องแคบเบริงจากประเทศรัสเซียทางทิศตะวันตก
และรัฐฮาวายเป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง
ดินแดนของสหรัฐกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน
ครอบคลุมเขตเวลาเก้าเขต ภูมิศาสตร์
ภูมิอากาศและสัตว์ป่าของประเทศหลากหลายอย่างยิ่ง
สหรัฐมีพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 326 ล้านคน
ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม
การปกครอง
เมืองหลวง : กรุงวอชิงตัน (Washington, D.C.)
เขตการปกครอง : เป็น 50 รัฐ และอีกหนึ่งเขตปกครองกลาง(District of Columbia)
- เขตปกครองกลาง(District of Columbia)เป็นที่ตั้งของเมืองหลวง คือ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.(Washington, D.C.)
- มี 48 รัฐและเขตปกครองกลาง(District of Columbia)ตั้งอยู่บนพื้นที่ของประเทศอเมริกาที่เป็นผืนเดียวกัน
- อีก 2 รัฐ คือ รัฐอะลาสก้า(Alaska)อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับ
แคนาดาและรัฐฮาวาย(Hawaii)ซึ่งเป็นหมู่เกาะอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
- นอกจากนี้ยังมีดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอเมริกา คือ
- หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก : กวม(Guam), หมู่เกาะมาริน่าเหนือ(Northern Marina islands), อเมริกันซา
มัว(American Samoa) ,
- หมู่เกาะแถบทะเลแคริบเบียน : หมู่เกาะเวอร์จิน(U.S Virgin Islands), เปอร์โตริโก (Puerto Rico)
ความเป็นอยู่และวัฒนธรรม
อเมริกาเป็นดินแดนที่ผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาใช้ชีวิตและแสวงหาประสบการณ์ วัฒนธรรมของที่นี่จึงมีความหลากหลายมาก และหากแกะรอยการสืบเชื้อสายของคนอเมริกาย้อนหลังไป คุณจะพบว่าคนอเมริกาจำนวนมากมาจากประเทศอื่นเสียเป็นส่วนใหญ่
และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่เห็นจากโทรทัศน์ แต่พฤติกรรมบางอย่างของชาวอเมริกันที่ปรากฏในโทรทัศน์ อย่างเช่นความผ่อนคลายและไม่เป็นทางการมากนัก ก็เป็นสิ่งที่คุณจะได้พบเจอเมื่อมาถึงอเมริกา ในขณะเข้าคิวเพื่อรอทำอะไรสักอย่าง คนแปลกหน้าที่ยืนอยู่คิวถัดไปอาจจะเข้ามาชวนคุยอย่างเป็นกันเอง ซึ่งคุณก็ไม่ควรตกใจหรือรู้สึกว่าถูกคุกคาม เพราะนี่คือวัฒนธรรมปกติทั่วไปของคนที่นั่น
อเมริกาเป็นดินแดนที่ผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาใช้ชีวิตและแสวงหาประสบการณ์ วัฒนธรรมของที่นี่จึงมีความหลากหลายมาก และหากแกะรอยการสืบเชื้อสายของคนอเมริกาย้อนหลังไป คุณจะพบว่าคนอเมริกาจำนวนมากมาจากประเทศอื่นเสียเป็นส่วนใหญ่
และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่เห็นจากโทรทัศน์ แต่พฤติกรรมบางอย่างของชาวอเมริกันที่ปรากฏในโทรทัศน์ อย่างเช่นความผ่อนคลายและไม่เป็นทางการมากนัก ก็เป็นสิ่งที่คุณจะได้พบเจอเมื่อมาถึงอเมริกา ในขณะเข้าคิวเพื่อรอทำอะไรสักอย่าง คนแปลกหน้าที่ยืนอยู่คิวถัดไปอาจจะเข้ามาชวนคุยอย่างเป็นกันเอง ซึ่งคุณก็ไม่ควรตกใจหรือรู้สึกว่าถูกคุกคาม เพราะนี่คือวัฒนธรรมปกติทั่วไปของคนที่นั่น
สถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว
เทพีเสรีภาพ
Statue of Liberty
นิวยอร์ก
สะพานโกลเด้น เกต
Golden Gate Bridge
ซานฟรานซิสโก
พระราชวังอิโอลานี
Iolani Palace
ฮาวาย
สะพานบรูคลิน
Brooklyn Bridge
นิวยอร์ก
ประเพณีและวันสำคัญ
New Year’s Day : 1 มกราคม วันปีใหม่ เป็นวันที่จะเฉลิมฉลองกันทั่วโลก ทุกหนทุกแห่ง เลยก็ว่าได้ วันนี้เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ ว่าปีใหม่นี้จะวางแผนเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ
Martin Luther King, Jr.’s Birthday : วันจันทร์ที่ 3 ของเดือนมกราคม การเฉลิมฉลองจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึง มาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์ (Martin Luther King) ซึ่งเป็นผู้รวบรวม และเป็นผู่นำการเคลื่อนไหว เรื่องสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1950-1960 เพื่อยุติการแบ่งแยกและเหยียดสีผิว มีคำกล่าวซึ่งถือเป็นวลียอดฮิตของเค้า คือ “ I have a Dream”
Washington’s Birthday หรือ President’s Day : วันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเป็นการระลึกถึง George Washington ผู้บัญชาการกองทัพปฏิวัติ ที่ปลดปล่อยประเทศสหรัฐอเมริกา จากการปกครองของประเทศอังกฤษ และ วอชิงตัน ยังเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
Easter : ตรงกับวันอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี เทศกาลอีสเตอร์นี้ เป็นการเฉลิมฉลองของศาสนาคริสต์ เนื่องในโอกาสที่พระเยซูคริสต์เสด็จคืนชีวิต หลังจากทรงถูกทรมานและสวรรคตบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้มนุษย์ และเสด็จจากหลุมฝังศพคืนสู่สวรรค์ วันอีสเตอร์เป็นวันอาทิตย์ เรียก Easter Sunday ประเพณีเทศกาลอีสเตอร์ว่าไว้ว่า ในคืนวันก่อน อีสเตอร์ จะมี Easter Bunny มาเยี่ยมเด็กๆ และวางตะกร้าที่บรรจุลูกกวาดรูปไข่ ช็อกโกแลตรูปกระต่าย และลูกเจี๊ยบไว้ให้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ได้ดัดแปลงกลายเป็นประเพณีว่า ให้เด็กตามล่าหาไข่อีสเตอร์กัน ตัวไข่อีสเตอร์ทำด้วยพลาสติกมีสีสันสดใสต่างๆ สามารถแกะแบ่งครืึ่งออกมา ข้างในบรรจุ Chocolate, ขนมหวานต่างๆ หรือของเล่นชิ้นเล็กๆเอาไว้ พวกผู้ใหญ่ก็มีหน้าที่ผลิตไข่อีสเตอร์ แล้วซ่อนเอาไว้ตามจุดต่างๆของสนามหญ้า
Memorial Day : วันจันทร์สุดท้ายในเดือนพฤษภาคม เป็นวันที่ระลึกถึงทหารอเมริกันที่เสียชีวิตเพื่อประเทศชาติ วันนี้เค้าจะมีการทำพิธีสดุดีทหารอเมริกันที่เสียชีวิตกันอย่างใหญ่โต ผู้คนมากมาย รวมทั้งญาติพี่น้องของทหารเหล่านี้ก็มาร่วมไว้อาลัยด้วย ทหารที่ตายในสนามรบมีเยอะมาก หลุมฝังศพเรียงรายสุดลูกหูลูกตา (แต่ไม่น่าเชื่อที่นี่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมตลอดทั้งปี
Independence Day : 4 กรกฎาคม เป็นวันที่ระลึกถึงการประกาศอิสรภาพ ซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 ถือเป็นวันหยุดที่สำคัญของประเทศ ในตอนเช้าจะมีการเดินพาเรด หลายเมืองก็มีคอนเสริตจัดด้วย หลายครอบครัวถือเอาวันนี้สังสรรค์ไปปิคนิค ตามสวนสาธารณะต่างๆ คนเพียบแทบไม่มีที่นั่ง ไฮไลท์ของวันหยุดวันนี้คือ การจุดพลุเฉลิมฉลอง
Labor Day : วันจันทร์แรกของเดือนกันยายน เป็นวันที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกียรติ ผู้ใช้แรงงานทั้งหญิงชาย และวันนี้ยังถือว่า เป็นวันสุดท้ายของการสิ้นสุดฤดูร้อน ผู้คนจึงเฉลิมฉลองด้วยการไปปิคนิค ไปเที่ยวสังสรรค์ และที่สำคัญ เป็นวันลดกระหน่ำซัมเมอร์เชลล์ หลายร้านจะพร้อมใจกันลดราคาของ เรียกได้ว่า ของถูกมากๆ ลดราคาตั้งแต่ 25-80 เปอร์เซนต์ เลยทีเดียว
Columbus Day : วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม เป็นวันที่ระลึกถึงการค้นพบทวีปอเมริกา โดยนักเดินเรือชาวอิตาเลียน ชื่อ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งกำลังจะเดินทางไปประเทศจีน แต่มาพบโลกใหม่ (The New World) ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1492 คือ อเมริกานั่นเอง
Halloween : 31 ตุลาคม Halloween เป็นงานที่ลูกเล็กเด็กแดง วัยรุ่น รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองต่างใส่ชุดประชันกันสุดฤทธิ์ เดิมทีเป็นวันหยุดทางศาสนา แต่ปัจจุบันเป็นวันหยุดให้เด็กๆมากกว่า ตามประเพณีจะมีการนำเอาลูกฟักทองมาแกะเป็นหน้าแม่มด ผี หรือหน้าคนรูปแปลกๆและเด็กๆจะแต่งชุดแฟนซีเดินไปตามบ้านต่างๆ และเคาะประตู เมื่อมีคนมาเปิดประตู เด็กๆจะร้องว่า Trick or Treat ซึ่งหมายความว่า If you don’t give a treat, I will trick you. Huuu
Veteran ‘s Day : วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน เป็นวันที่ระลึกและให้เกียรติแก่ทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 11 พฤศจิกายน
Thanksgiving Day : วันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงการตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรในอเมริกาของชาวยุโรป ซึ่งคนหลายนี้เป็นพวกนักแสวงบุญจากอังกฤษนั่นเอง และเพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้า ที่ช่วยให้การเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารประสบความสำเร็จ ปัจจุบันชาวอเมริกัน ถือเป็นวันขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ทุกคนมีสุขภาพดี และมีความสุข
Christmas : 25 ธันวาคม วันคริสต์มาส เป็นวันสำคัญในอเมริกา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดพระเยซู มีการประดับตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงาม นำต้นสนมาแต่งด้วยไฟระยิบระยับ และเครื่องประดับต่างๆไว้บนต้นคริสต์มาส วันนี้สมาชิกในครอบครัว ก็มีการแลกเปลี่ยนของขวัญกัน มีความเชื่อว่าซานตาครอสจะนำของขวัญมาวางให้เด็กๆ ที่ใต้ต้นคริสต์มาส
New Year’s Eve : 31 ธันวาคม วันที่ 31 ธันวาคม มักจะมีการจัดปาร์ตี้กันยาวนานจนกระทั่งถึงหลังเที่ยงคืน นาทีแรกของวันปีใหม่ คนอเมริกันถือว่าเป็นคืนที่พิเศษของปี ซึ่งจะมีการจัดเฉลิมฉลองกันทุกแห่งหน
Lincoln’s Birthday 12 กุมภาพันธ์ เป็นวันเกิดของประธานาธิปดีอับบราฮัม ลินคอล์น
Valentine’s Day14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
St. Patrick’s Day17 มีนาคม เป็นวันที่ให้เกียรติแก่นักบุญเซนต์แพทริก ในวันนี้ผู้คนจะแต่งกายและสวมใส่เครื่องประดับสีเขียว รวมทั้งมีการเดินขบวนพาเหรดเพื่อฉลองวันเซนต์แพทริก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น